บรรณานุกรม: หน้า [205]-210.

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาสภาพและปัจจัยในการดำเนินธุรกิจก่อสร้างของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยในกลุ่มประเทศ CLMV กรณีศึกษาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 2) ศึกษากลยุทธ์การแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยในดำเนินธุรกิจก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV กรณีศึกษาสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา 3) นำเสนอกลยุทธ์การแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยในการดำเนินธุรกิจก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV ในมุมมองของผู้วิจัย การวิจัยนี้เป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ ประชากรผู้ให้ข้อมูลแบ่งเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกคือกลุ่มผู้บริหารองค์การผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยที่เข้าไปทำงานใน สปป.ลาว และสหภาพเมียนมา จำนวน 13 คน และกลุ่มที่สองคือกลุ่มผู้แทนฝ่ายเจ้าของโครงการก่อสร้างในประเทศที่ศึกษา จำนวน 7 คน เครื่องมือที่ใช้ คือ แบบสัมภาษณ์เชิงลึก และการวิเคราะห์ข้อมูลใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) ธุรกิจก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV ยังมีอุปสงค์อยู่มากตามนโยบายการพัฒนาประเทศ และผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะเข้าไปดำเนินธุรกิจก่อสร้างทั้งใน สปป.ลาว และสหภาพเมียนมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจัยในการดำเนินงานของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยแบ่งเป็นปัจจัยภายนอกและปัจจัยภายในองค์การ ปัจจัยภายนอกองค์การที่มีผลกระทบเชิงบวก ประกอบด้วยอำนาจต่อรองของผู้ขายวัตถุดิบหรือวัสดุก่อสร้าง ข้อจำกัดจากสินค้าหรือบริการทดแทน สังคมและวัฒนธรรม และเทคโนโลยี ส่วนปัจจัยภายในองค์การที่มีผลกระทบเชิงบวก ประกอบด้วย การจัดการโครงการก่อสร้างและคุณลักษณะของบุคลากร 2) กลยุทธ์การแข่งขันของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยในดำเนินธุรกิจก่อสร้างในสปป.ลาว และสหภาพเมียนมา แบ่งเป็น กลยุทธ์เชิงรุก กลยุทธ์เชิงแก้ไข กลยุทธ์เชิงรับ และกลยุทธ์เชิงป้องกัน 3) จากมุมมองของผู้วิจัยที่มีต่อการดำเนินธุรกิจก่อสร้างในกลุ่มประเทศ CLMV ผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยควรเลือกใช้กลยุทธ์การสร้างความแตกต่างและกลยุทธ์การมุ่งตลาดเฉพาะส่วน ซึ่งกลยุทธ์การสร้างความแตกต่าง ได้แก่ การรับงานเฉพาะงานที่มีประสบการณ์ตรง การรับงานที่มีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเฉพาะด้าน การสร้างความสัมพันธ์ดีกับลูกค้าด้วยการให้บริการงานก่อสร้างที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และการสร้างแบรนด์ของผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยให้เป็นที่รู้จัก สำหรับกลยุทธ์การมุ่งตลาดเฉพาะส่วน ได้แก่ การรับงานวิชาชีพเฉพาะด้าน การรับงานเหมาช่วงเฉพาะงานที่มีทักษะความชำนาญพิเศษ การรับงานก่อสร้างโดยวิธีการจ้างบุคลากรระดับเทคนิคและช่างฝีมือไปจากประเทศไทยและจัดจ้างแรงงานในท้องถิ่น การรับงานก่อสร้างโดยการถ่ายโอนภาระความรับผิดชอบในการจัดซื้อวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างให้กับเจ้าของโครงการ และการรับดำเนินการด้านโลจิสติกส์เพื่อจัดซื้อจัดหาวัสดุก่อสร้างให้กับโครงการก่อสร้างต่างๆ ทั้งนี้สำหรับกลยุทธ์การเป็นผู้นำทางด้านต้นทุนรวมจัดเป็นกลยุทธ์ที่ไม่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจก่อสร้างไทยในการดำเนินธุรกิจในกลุ่มประเทศ CLMV.

การวิจัยครั้งนี้ได้รับทุนอุดหนุนการวิจัยจากงบประมาณแผ่นดิน ประจำปี พ.ศ.2560 มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช.